กว่า 10 ชั่วโมง ขับไปแวะไป ท่ามกลางสภาพอากาศที่แสนร้อนอบอ้าว กับเส้นทางบนถนนฮอด-แม่สะเรียง ลัดเลาะไปตามไหล่เขา บางช่วงวิ่งคู่ขนานลำธาร มองออกไปเห็นแพกลางน้ำ หลายชีวิตกำลังเริงร่าอยู่บนสายน้ำ บ้างก็กินอาหาร บ้างก็วิ่งเล่น อดใจไม่ไหว จอดรถแวะดีกว่า
ท้องเริ่มหิว ไก่ย่าง ข้าวเหนียว ส้มตำ ฯลฯ ถูกสั่งมากองอยู่ตรงหน้า บนแพกลางน้ำ นั่งกินไปหย่อนขาสัมผัสน้ำใสไหลเย็นไป ท่ามกลางต้นไม้และภูเขา บรรยากาศคล้ายๆ ได้ไปเที่ยวทะเล แต่ทะเลที่นี่เป็นทะเลน้ำจืด มีลมพัดเอื่อยๆ กับที่นี่อำเภอฮอด แต่ไม่ Hot ผ่านไปชั่วโมงกว่าๆ พระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้า ออกเดินทางต่อดีกว่า พรุ่งนี้เช้ามีนัดหมายกับการไปถ่ายภาพ พิธีปอยส่างลอง
เสียงไก่ขันยามอรุณรุ่ง วิถีชีวิตของคนที่นี่กำลังเริ่มขึ้น บนถนนในตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน พระ สามเณร กำลังเดินเรียงแถวออกบิณฑบาต มีผู้คนรอใส่บาตรเป็นระยะ มีทั้งผู้เฒ่า ผู้หนุ่ม ผู้สาว และผู้เยาว์ เลยไม่รอช้าที่จะคว้ากล้องออกมาบันทึกภาพเก็บไว้ ก่อนจะเดินข้ามไปยังวัดหัวเวียง สถานที่ที่จะใช้ประกอบพิธีปอยส่างลอง หรือการบรรพชาเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนาของชาวไทใหญ่ ซึ่งเด็กที่จะเข้าพิธีจะแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าที่มีการประดับอย่างเลิศหรูอลังการ แต่งหน้าแต่งตาด้วยสีจัดจ้าน เปรียบเหมือนกับเทวดาตัวน้อย
พิธีจะมีทั้งหมด 3 วัน วันนี้เป็นวันแรก ชาวไทใหญ่เรียกว่า "วันเอาส่างลอง" จะมีการแห่ขบวนลูกแก้วไปตามวัดต่างๆ รอบเมืองเพื่อรับศีล หลังจากนั้นขบวนแห่ลูกแก้วก็จะแยกย้ายกันไปเยี่ยมญาติที่บ้านของแต่ละคน
เดินตามถ่ายภาพกันมาตั้งแต่เช้า เหงื่อไหลท่วมกาย กับสภาพอากาศที่ร้อน ซึ่งตอนนี้ก็สามโมงกว่าๆ แล้ว เริ่มนึกถึงอาหารมื้อเย็น กินอะไรดี
“ขาหมูหมั่นโถ” เมนูที่ได้รับการโหวตจากสมาชิก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ที่หมายต่อไปคือ “บ้านรักไทย” พื้นที่ของนักรบรุ่นสุดท้าย กองพล 93 ก๊กมินตั๋ง ปัจจุบันเป็นหมู่บ้านชาวจีนยูนนาน อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ประชาชนนิยมเดินทางมาพักผ่อนในช่วงหน้าหนาว กับการจิบชาและลิ้มรสอาหาร บรรยากาศในหน้าร้อนจึงดูค่อนข้างเงียบเหงา แม้อาจไม่ครึกครื้นแต่ก็สามารถเดินชม และถ่ายภาพได้บ้าง จะดีก็ตรงที่ไม่ต้องไปเบียดเสียดหรือแย่งชิงโต๊ะกับใคร เพราะช่วงนี้โต๊ะว่างเพียบ อิ่มท้อง เดินสบาย ผ่านไปอีกหนึ่งวัน
เสียงกลอง ร้องเพลงดังสนั่น เสียงโห่ร้องดังไปทั่วตำบลหัวเวียง ต้อนรับเข้าสู่เช้าวันที่สองของประเพณีปอยส่างลอง หรือ "วันรับแขก"
วันนี้ขบวนแห่ลูกแก้วดูแล้วยิ่งใหญ่กว่าวันแรก มีเครื่องสักการะ เครื่องจตุปัจจัยในการถวายพระสงฆ์ และผู้คนมาร่วมงานมากกว่าวันแรก โดยตลอดทางที่ขบวนแห่ลูกแก้ว แห่ไปรอบเมืองจะมีประชาชนข้างทางคอยโปรยดอกไม้ให้กับลูกแก้ว ที่กำลังขี่คอญาติอยู่ ซึ่งถ้าเป็นสมัยก่อนลูกแก้วจะต้องขี่ม้า แต่ด้วยม้านั้นอาจมีราคาสูง จึงมีปรับเปลี่ยนรูปแบบไป
ตอนแรกก็สงสัยว่าทำไมต้องขี่ม้า จนมีชาวไทใหญ่มาช่วยไขความกระจ่าง "ลูกแก้วก็เปรียบดั่งเทวดาตัวน้อย ดังนั้นตลอดสามวันนี้เท้าของลูกแก้วห้ามเหยียบพื้น" เราจึงเห็นคนคอยแบกลูกแก้วไปตามที่ต่างๆ ตลอดเวลา จนถึงวันสุดท้าย คือ "วันบวช" ซึ่งลูกแก้วทั้งหมดจะเดินทางไปวัดเพื่อทำการบรรพชาจากพระผู้ใหญ่ แล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งกายจากชุดเสื้อผ้าส่างลอง มาห่มจีวร ใต้ร่มกาสาวพัตร์ เป็นอันเสร็จพิธี
แต่ก่อนจากลาแม่ฮ่องสอน อย่าลืมแวะชมหมู่บ้านกะเหรี่ยงคอยาวกับไปเก็บตะวันลับฟ้าที่ปางอุ๋งกันนะครับ ถึงแม้จะไม่สวยเท่าหน้าหนาว แต่ก็งามโดดเด่นเป็นสไตล์ในหน้าร้อน ที่เหมือนใครเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น