ห้องอาหาร เมซซาลูน่า(Mezzaluna) เดอะ โดม แอท เลอบัว

ในโอกาสที่ท้องฟ้าเปลี่ยนเป็นสีชมพูในเทศกาลแห่งความรัก...ห้องอาหาร เมซซาลูน่า(Mezzaluna) เดอะ โดม แอท เลอบัว จัดงานใหญ่พร้อมกัน 2 งาน นำเสนอความสวยงามของอาหารรูปแบบใหม่ พร้อมยูนิฟอร์มของพนักงานที่สร้างสรรค์ใหม่จากนักออกแบบรุ่นใหม่

งานเดียวกันนี้จัดขึ้นเมื่อค่ำวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อให้เมนูอาหารรังสรรค์ใหม่กับยูนิฟอร์มใหม่ เกิดขึ้นพร้อมกันในเดือนกุมภาพันธ์ 2554
 

คุณรัฐวดี บัวเลิศ ประธาน เลอ บัว โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท บอกว่า “ถือเป็นครั้งแรกที่เราแปลงโฉมห้องอาหารเมซซาลูน่า พร้อมกับการสนับสนุนนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ และปรับเมนูใหม่ นำเสนอประสบการณ์ชั้นเลิศให้กับลูกค้า”
 

ยูนิฟอร์มใหม่สำหรับบริการชาย-หญิง ประจำห้องอาหารเมซซาลูน่า อยู่ในโครงการMezzaluna Design Challenge อันเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนโฉมจากห้องอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน ไปสู่ห้องอาหารที่นำเสนออาหารร่วมสมัย ซึ่งชุดบริกรมีความสำคัญต่อบรรยากาศ อารมณ์ และรูปแบบของห้องอาหาร อีกทั้งต้องมีความคล่องตัวเพื่อการเคลื่อนไหว และเฉดสีที่กลมกลืนเพื่อการสวมใส่และใช้งานได้จริง งานออกแบบยูนิฟอร์มนี้รับสมัครจากนักออกแบบรุ่นใหม่ ส่งภาพสเก็ตช์ผ่านรอบคัดเลือก เหลือ 10 คนสุดท้าย ตัดเย็บจริง นำเสนอในรูปแบบแฟชั่นโชว์ เพื่อให้คณะกรรมการลงคะแนนตัดสินในคืนวันนั้น

คณะกรรมการประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิด้านแฟชั่นการแต่งกาย ได้แก่ คุณจ๋อม - ศิริชัย ทหรานนท์ ดีไซเนอร์และเจ้าของห้องเสื้อ Theatre, คุณฟอร์ด - กุลวิทย์ เลาสุขศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสาร “แอล” (ประเทศไทย), คุณหมู - พลพัฒน์ อัศวประภา ดีไซเนอร์และเจ้าของห้องเสื้อ ASAVA คุณตุ้ม - เมตตา ตันติสัจจธรรม ดีไซเนอร์และเจ้าของห้องเสื้อ Metta และ คุณอาร์ท - อารยา อินทรา แฟชั่นสไตลิสต์ชื่อดัง คณะกรรมการร่วมชมการเดินแบบชุดยูนิฟอร์มพร้อมกับแขกเหรื่อ และลงคะแนนตัดสินผู้ชนะเลิศ โดยชุดยูนิฟอร์มที่ได้รางวัล ผู้ออกแบบจะได้รับเงินรางวัล 1 แสนบาท พร้อมชุดที่นำไปตัดเย็บใช้งานจริง
 

ผลงานจากนักออกแบบรุ่นใหม่ 10 คน เดินแบบคู่ชาย-หญิง ดีไซน์ร่วมสมัย เฉดสีที่เรียบที่เข้ากับบรรยากาศของห้องอาหาร และในที่สุดก็ได้ผู้ชนะ คือ คุณจตุพร เจริญเอม สำหรับยูนิฟอร์มพนักงานหญิงกระโปรงทรงสอบ เสื้อแขนยาวเท่าข้อศอก ผ้าพื้นสีเทาอมน้ำตาลไล่โทน และสูทสีดำของยูนิฟอร์มชายดูเรียบโก้
 

แต่ก่อนจะได้คะแนนเป็นเอกฉันท์ คุณอาร์ท - อารยา ให้ความเห็นว่าตอนแรกที่ดูชุดจากภาพสเก็ตช์ก็ดูสวยงามทุกชุด แต่เมื่อตัดเย็บออกมาแล้วรู้สึกว่าบางชุดถ้าไปยืนตามเสาอาจกลมกลืนดูหายไปเลย เพราะเมื่อเทียบกับบรรยากาศของห้องอาหารจริง เสื้อผ้าควรจะฟังก์ชันแนลคือใช้งานได้จริง...

 คุณจ๋อม - ศิริชัย ให้ความเห็นว่า "คณะกรรมการทุกท่านลงคะแนนเป็นเอกฉันท์ โดยผู้ชนะก็ได้คะแนนจากความโดดเด่นของดีไซน์ ที่มีความเรียบแต่แฝงรายละเอียดเอาไว้ ชุดผู้หญิงฟังก์ชันใช้งานได้ดีและทำให้ผู้หญิงมีรูปร่างขึ้นในช่วงตัดต่อเอวกับกระโปรง แล้วถ้าปรับความยาวให้เหนือเข่าสักนิดก็จะใช้งานง่ายขึ้น เฉดสีที่ไล่โทนช่วยพรางรูปร่างได้ดี ชุดผู้ชายชอบแจ๊คเก็ตที่ตัดต่อกับตัวเสื้อเชิ้ตซึ่งเป็นเสื้อตัวเดียวกัน

ส่วนคนอื่นๆ ก็แบ่งเป็น 2 อย่าง คือ บางคนสเกตช์น่าสนใจ เราก็ได้บอกไปว่าเมื่อตัดเย็บจริง ส่วนไหนควรปรับแต่งแค่ไหน แต่พอเห็นของจริงก็อาจไม่ตรงตามสเกตช์ อีกแบบหนึ่งคือสเกตช์ไม่ค่อยน่าสนใจ แต่พอลงมือทำออกมาแล้วสวย แต่บางคนสีสันอาจไม่เหมาะกับห้องอาหารเมซซาลูน่า บางคนใช้สีอ่อนไป เป็นพาสเทล เทา ครีม กากี ซึ่งบางชุดอาจไม่เหมาะกับที่นี่แต่อาจเหมาะกับส่วนอื่นๆ ของโรงแรม ทุกคนมีความเห็นเหมือนกัน เช่น ชุดโชว์ลำดับที่ 5 ที่ 7 ก็ได้แนะนำคุณรัฐวดีว่า อาจนำไปใช้ในส่วนอื่นๆ หรือห้องอาหารอื่นๆ ของโรงแรม และอยากให้น้องๆ ที่พลาดไปก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะทุกคนได้แสดงฝีมือเต็มที่ แต่ละคนมีจุดดีจุดด้อยแตกต่างกันไป อยากเป็นกำลังให้น้องๆ"
 

คุณจ๋อม บอกอีกว่า "เป็นครั้งแรกที่ได้เป็นกรรมการตัดสินยูนิฟอร์มสำหรับสถานที่หรือห้องอาหาร ยังไม่เคยมีใครจัดแบบนี้มาก่อน จึงนับว่าน่าสนใจมาก อีกทั้งโจทย์ที่ให้มาสำหรับนักออกแบบก็เปิดกว้างสำหรับทุกคน เป็นนักออกแบบหรือเป็นนักศึกษาได้หมด กฎระเบียบข้อจำกัดน้อย แค่มีไอเดียนำเสนอ และผลที่ได้คือผู้เข้าแข่งขันเขาดีไซน์ให้ตรงกับฟังก์ชันใช้งาน ได้สีในโทนที่ใกล้เคียงกัน ในโจทย์ไม่ได้กำหนดไว้เลย อยากทำสีอะไรก็ได้ คณะกรรมการให้แนวคิดเพียงว่า ขอเลี่ยงสีดำ หรือแนะนำบ้างว่าแจ๊คเก็ตบางทีก็ไม่จำเป็นเพราะถ้าใส่เสื้อ 2 ตัว อาจไม่สะดวกในการเคลื่อนไหว"
 

คุณจตุพร เจริญเอม ในฐานะผู้ชนะเลิศ เปิดใจว่า "ทราบข่าวจากเพื่อนๆ โจทย์ที่ให้มาคือออกแบบชุดพนักงานเสิร์ฟ ชาย-หญิง ก็ส่งภาพสเกตช์เข้าไปออดิชั่น เราคิดว่าทำเสื้อผ้าให้เข้ากับธีมของร้านที่มีความหรูหรา ใช้วิธีหาข้อมูลประกอบการออกแบบ เช่น ห้องอาหารมีอะไรบ้าง ชุดเก่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไร เวลาออกแบบคิดว่าชุดต้องกลมกลืนกับธีมร้าน เสื้อผ้าไม่ควรเด่นเกินลูกค้า แต่ต้องดูสะอาด น่าเชื่อถือ ดูน่าไว้ใจ เราก็ใช้วิธีดึงสีจากอินทีเรียที่เป็นสีน้ำตาล แล้วใช้เทคนิคการพิมพ์ผ้าไล่เฉด ผนวกกับคำว่าMezzaluna ที่แปลว่าพระจันทร์เสี้ยว เฉดสีนี้ได้มาจากสีของพระจันทร์ที่ถ้ามองตอนกลางคืน จะเห็นเฉดสีไล่กันมาจากดำ น้ำตาล จนสว่างขึ้น ส่วนผ้าใช้คอตตอน สแปนเด็กซ์ ที่มีความยืดหยุ่นเพื่อความเคลื่อนไหวสะดวก ส่วนกางเกงกับเสื้อตัวนอกเป็นผ้าวูล ดูหรูขึ้นให้เข้ากับห้องอาหาร และสามารถจับเดรปได้ดี"

ในส่วนของอาหาร คุณดีภัค โอริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เลอบัว โฮเทล แอนด์ รีสอร์ท บอกว่า “เป็นโอกาสดีที่เรานำส่วนที่ดีที่สุดจากสิ่งที่ดีที่สุดมานำเสนอแก่ลูกค้าของห้องอาหาร เมนูใหม่ที่คิดขึ้นนี้ เริ่มต้นจากการคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเลิศนำเข้าจาก 15 ประเทศทั่วโลก และวัตถุดิบสดใหม่จากโครงการหลวง ผนวกเป็นคอนเซปต์ใหม่ของห้องอาหารที่มีเมนูรสเลิศ (Tasting Menu) และเมนูมังสวิรัติ (Vegetarian Tasting Menu) พร้อมตกแต่งจานอย่างสวยงาม ดังนั้นไม่เพียงรสชาติที่แตกต่างเท่านั้น แต่ลักษณะการตกแต่งจานอาหารก็เปลี่ยนไปด้วย พร้อมกันนี้ก็ได้นำเข้าชุดจานชามชั้นยอดจากต่างประเทศ ในการนำเสนอและตกแต่งราวกับงานศิลปะ”

ผู้รับผิดชอบด้านอาหาร คือ เชฟฝาแฝด โทมัส และ มาทิอัส ซือริ่ง ชาวเยอรมัน ที่เนรมิตอาหารจานสวยน่ามองเหมือนภาพเขียน เชฟบอกว่า เมนูใหม่นี้ใหม่ทั้งรูปแบบการนำเสนอ เช่น เสิร์ฟอาหารในจานสวย เมื่อวางบนโต๊ะแล้วบริกรจำเทน้ำซุปหรือซอสลงไปในจานอาหารอีกครั้ง เพื่อให้เข้าถึงรสชาติ ความร้อน ความหอมกรุ่น และรูปแบบอันน่าประทับใจ อาหารของเชฟขนาดกำลังพอดี จานเรียกน้ำย่อยปริมาณพอคำ อาหารคั่นรายการเช่นไอศกรีมซอร์เบท์ กลิ่นรสหอมละมุนให้ความสดชื่น อีกทั้งไวน์ที่คัดสรรมาให้เข้าคู่กัน เชฟบอกว่า ...เรานำเสนออาหารเด่นจากทั่วโลก อาทิเช่น ออสเซตเทีย คาเวียร์ (Ossetia Caviar) กุ้งมังกรโนวา สกอเทีย (Nova Scotia Lobster) ปลาทะเลแมคเคอเรลจากทะเลญี่ปุ่น (Japanese Mackerel) เนื้อลูกแกะจากโรน (Rhone Lamb) และผักผลไม้สดที่ปลูกจากโครงการหลวง

ในคืนตัดสินชุดยูนิฟอร์ม เชฟฝาแฝดนำเสนอเมนูอาหารปรุงโฉมใหม่ ได้แก่ แฮมแก้มหมูไส้แคนตาลูป ห้อยมาในราวรวดเล็ก ๆ น่ารักเก๋ไก๋ แล้วเริ่มด้วยอาหารเรียกน้ำย่อย คิงแครพเนื้อปูนุ่มหมักโยเกิร์ต แตงกวากับส้มยูซุ โปะออสเซตร้า คาเวียร์ จัดในจานสีขาวลายปาดพู่กันสีเขียว ขนาดของจานออกแบบให้พอดีกับขนาดอาหารคือพอคำ เสิร์ฟกับไวน์ G.H.Mumm Grand Cur, Brut จานที่สองเป็น Japanese Mackerel ปลาแมคเคอเรลในน้ำสต๊อกมะเขือเทศกับผักเครสออร์แกนิค รับประทานแล้วสดชื่น จานต่อมาเป็นกุ้งมังกรโนวา สโคเทีย ปรุงกับหัวบีท แครนเบอร์รี หอมใหญ่ดองกับแรดิชิโอ

อีกจานเป็น Soulard Duck เนื้ออกเป็ดติดหนังกรอบเล็กน้อยปรุงกับวินเทอร์ ทรัฟเฟิล ได้กลิ่นเห็ดหอมกรุ่น วิธีเสิร์ฟบริกรจะนำจานเป็ดมาวางแล้วตามด้วยน้ำซุปที่เทออกจากเหยือกจิ๋ว ระหว่างเทจะได้กลิ่นหอมของน้ำซุปโชยมาบางเบา... จากนั้นคั่นด้วยไอศกรีมเชอร์เบทมะนาวกับแชมเปญ เรียกความสดชื่น แล้วต่อด้วย Rhone Lamb เนื้อลูกแกะจากโรนปรุงกับรากพาร์สลีย์ และมัสตาร์ด จานมีปีกแผ่ออก ตรงกลางเป็นหลุมเพื่อให้เทน้ำซุป เป็นวิธีเสิร์ฟที่เรียกความสนใจไม่น้อย ของหวานเป็น Valrhona Chocolate เนื้อเข้มข้นมีราสพ์เบอร์รีกับชีสนมแพะ ขนาดพอคำให้หม่ำไปพร้อมกัน