พ.ศ.2535 ใครกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนบ้างลองทบทวนดู
แต่ที่แน่ๆ กลุ่มหนุ่มสาวในยุคนั้นที่ใช้ชีวิตอยู่ในแวดวงสังคมและเป็นต้นแบบของคำว่าเซเลบริตี้ในยุคนี้ กำลังพูดถึงและนิยมนัดพบปะสังสรรค์กัน ณ สถานที่เปิดใหม่สุดทันสมัยแห่งหนึ่งในยุคนั้นที่ชื่อเขียนด้วยอักษรภาษาอังกฤษลายเส้นม้วนๆ อ่านว่า spasso (สปาสโซ่) เป็นภาษาอิตาเลียน แปลว่า relax,
enjoy, have fun หรือ สนุกสนานเพลิดเพลิน...อะไรทำนองนี้
ตั้งอยู่ชั้นล่างของโรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ
กรุงเทพฯ อยากเจอใครดังๆ ยุคนั้นต้องไปที่นี่
สปาสโซ่เป็นห้องอาหารอิตาเลียนยุคแรกที่อาหารอิตาเลียนเริ่มได้รับความนิยมในกรุงเทพฯ หลังอาหารมื้อค่ำเสร็จสิ้น สปาสโซ่ก็แปลงโฉมให้นักย่ำราตรีได้เริงร่าไปกับจังหวะและเสียงเพลงจากวงดนตรีชั้นนำ
เกือบยี่สิบปีก่อนหากต้องการลิ้มรสชาติอาหารอิตาเลียนแท้ๆ การไปสปาสโซ่นั้นไม่ผิดหวัง วันนี้ก็เช่นกัน สปาสโซ่ยังคงรักษาชื่อเสียงไว้อย่างพิถีพิถัน สืบทอดตำนานสปาสโซ่ด้วยหัวหน้าเชฟชาวอิตาเลียนคนใหม่ เชฟลอริส พิสทิลโล (Loris Pistillo) ใช้ประสบการณ์การเป็นเชฟ 14 ปีจากมิลาน นอร์เวย์ ฮังการี บาหลี สิงคโปร์ เลือกสรรและออกแบบเมนูอาหารอิตาเลียนใหม่ให้กับสปาสโซ่ด้วยการนำอาหารต้นตำรับจากทุกภูมิภาคของอิตาลีมารวมไว้ในเมนูที่นี่ การรับประทานอาหารที่สปาสโซ่วันนี้จึงเหมือนได้เที่ยวทั่วอิตาลี ซึ่งแต่ละภูมิภาคก็มีอาหารจานเด็ดและวัตถุดิบเฉพาะแตกต่างกันไป
จากตอนเหนือของอิตาลีซึ่งอากาศหนาวเย็นและมีชื่อเสียงด้านเนยแข็ง เชฟลอริสเลือกสร้างสรรค์เมนู บรูเซตต้า คาปาชิโอ (Crostoni rustici al carpaccio, 280++บาท) เนื้อสันในสไลซ์ม้วนเห็ดไว้ข้างใน เสิร์ฟบนขนมปังอบ กินกับมาสคาโปนชีสและร็อคเกต จานนี้เป็นอาหารดั้งเดิมของเมืองเวนิส
จากตอนกลางของอิตาลีบริเวณแคว้นทัสคานี แหล่งผลิตเนื้อสัตว์ น้ำมันมะกอกและมะเขือเทศเลื่องชื่อ มีเมนูให้เลือกเช่น เบอราตา พาร์ม่าแฮม (Burrata di andria, pomodori, prosciutto di parma, 550++บาท) เมนูนี้มีความเด็ดถึงสามต่อ คือมะเขือเทศสดอิตาเลียน กินกับ 'เบอราตา' ชีสสดอิตาเลียนที่มีความนุ่มและครีมมี่อยู่ข้างใน แกล้มด้วยพาร์ม่าแฮมซึ่งเป็นสุดยอด cold cut ของอิตาลีเช่นกัน, ริกาโตนีเนื้อปู (Rigatoni al granchio, 490++บาท) เชฟนำแป้งเซโมลินาออร์แกนิคมาจากอิตาลี นวดผสมไข่ไก่ทำเป็นริกาโตนีเส้นสด ผัดกับซอสเนื้อปูด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ (DOP extra virgin olive oil) ผลิตภายใต้ข้อกำหนดเคร่งครัดเพื่อคงคุณค่าน้ำมันมะกอกไว้ในระดับสูงสุดจากแคว้นลาซิโอ ส่งกลิ่นปูหอมฉุย แต่งรสเผ็ดด้วยพริกและรสเปรี้ยวสดชื่นด้วยมะเขือเทศเชอร์รีสด
หากใครมีเมนูโปรดเป็นริซอตโต้ (risotto) เชฟลอริสภูมิใจเสนอวัตถุดิบขึ้นชื่อจากบ้านเกิดของเขาในมิลานด้วยริซอตโต้สูตรพิเศษ ริซอตโต้ฟักทอง (Risotto with pumpkin, duck ragu and glazed shallots, 460++บาท) ข้าวริซอตโต้ออร์แกนิคจากมิลานผัดกับครีมซอสที่ปรุงด้วยฟักทอง แครอท หอมใหญ่ เนย น้ำมันมะกอก ใบไทม์ ไวน์แดง เนื้ออกเป็ด บัลซามิก ฯลฯ ได้ริซอตโต้ที่เหนียวนุ่มชุ่มรสครีมฟักทอง
เรามาถึงตอนใต้ของอิตาลีด้วยเมนูเด็ดที่สร้างสรรค์จากอาหารทะเลซึ่งเป็นวัตถุดิบมีชื่อของถิ่นนี้ ปลากะพงแดงย่าง (Red snapper fillet, sautéed clams in white wine and red capsicum coulis, 800++บาท) เนื้อปลากะพงแดงย่างให้พอมีสีสวยแล้วนำไปอบเพื่อยังคงความนุ่ม เสิร์ฟพร้อมหอยผัดกระเทียมในไวน์ขาวและซอสพริกหวานข้นกับสลัดผักเฟนเนล
ความพิเศษของสปาสโซ่วันนี้คือเชฟลอริสสำรวจตลาดวัตถุดิบแต่เช้าทุกวัน ดูว่ามีวัตถุดิบอะไรพิเศษที่นำเข้ามา เพื่อนำมาสร้างสรรค์เป็น Special menu of the day ให้นักชิมได้ลิ้มรสความแปลกใหม่เหนือความคาดหมาย เช่น หมูดำอบ (Slow roast pork flank, 800++บาท) หมูดำของอิตาลีเรียกว่า Flank เป็นหมูดำสายพันธุ์ Maialino di Cinta Senese ปล่อยให้หากินตามธรรมชาติในฟาร์มแห่งแคว้นทัสคานี ผิวหนังทั้งตัวมีสีดำ ยกเว้นบริเวณสันคอที่มีสีขาว เหมือนมีปลอกคอสีขาวคาดไว้รอบสันคอ เชฟเลือกใช้เฉพาะเนื้อใต้ผิวหนังสีขาวของหมูดำ นำมาอบกับเกาลัด ไวน์แดง ใบไทม์ กระเทียม ด้วยอุณหภูมิ 62 องศาเซลเซียส นานห้าชั่วโมง เนื้อหมูที่ได้จะนุ่ม-หวาน ส่วนวันนี้จะมีเมนูพิเศษอะไรคงต้องโทร.ไปถามไถ่กันล่วงหน้า
หลังพาลัดเลาะอิตาลีมาถึงตอนใต้ เชฟลอริสจบการแนะนำอาหารมื้อนี้ด้วยการพากลับไปยังตอนเหนือของอิตาลีอีกครั้งด้วย ทีรามิสุ (Tiramisu, 250++บาท) ของหวานเลื่องชื่อของอิตาลีที่มีส่วนผสมหลักคือชีสมาสคาโปน ไข่แดง น้ำตาลทราย เอสเพรสโซ่ และเหล้า (Fortified Wine) มีต้นกำเนิดดั้งเดิมจากเมืองเวนิสเช่นกัน
ห้องอาหารสปาสโซ่ เปิดบริการทุกวัน มื้อกลางวัน 12.00-14.30 น. มื้อค่ำ 18.30-22.30 น. ดนตรีแสดงสด 22.00-02.00 น. (ยกเว้นวันอาทิตย์) โทร.0 2254 1234
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น