วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เกาะเปอร์เฮ็นเทียน(Perhentian)



เกาะงามกลางท้องทะเลจีนใต้ ในเขตประเทศมาเลเซียนั้นมีนับไม่ถ้วน แต่ไม่มีอะไรสดใสเท่าเกาะเปอร์เฮ็นเทียน(Perhentian) อีกแล้ว
ค่าที่ถูกยกย่องให้เป็นเกาะสวรรค์ งดงามที่สุดในถิ่นเสือเหลือง ฉันจึงเพียรหาข้อมูลเกาะเปอร์เฮ็นเทียนมานานหลายปี ตั้งท่าขยับจะไปตะลุยเกาะงามแห่งนี้หลายครั้งหลายครา จนแล้วจนรอด ก็ได้เห็นขาอ่อนของเปอร์เฮ็นเทียนจนได้ 
ฉันมุ่งหน้าไปตั้งหลักที่กัวลา เบซุท(Kuala Besut) ท่าเรือใหญ่ที่นักเดินทางไปนั่งเตร็ดเตร่อยู่แถวนั้นเพื่อข้ามน้ำข้ามทะเลไปยังเกาะเปอร์เฮ็นเทียน
ความจริงก่อนจะถึงกัวลา เบซุท รถวิ่งผ่านชุมชนใหญ่น้อยหลายแห่ง แต่ที่เห็นว่าเป็นชุมชนคึกคักหน่อยเห็นจะเป็นเมืองรันตู และโกตา บารู ทั้งสองเมืองที่ว่าอยู่ในเขตของรัฐกลันตัน (Kelantan) ดินแดนเหนือคาบสมุทรมาเลเซียแห่งนี้ ถูกยกให้เป็น”ดินแดนแห่งสมบัติอันล้ำค่า” หรือบางทีก็ถูกเรียกว่าเป็น”แหล่งวัฒนธรรมมาเลย์”
รถวิ่งเลาะเลียบบนถนนที่ขนานไปกับชายทะเล หมู่บ้านชาวประมงอันเงียบสงบ ทอดตัวเรียงรายอยู่ข้างทาง ชายหาดสวยงามซ่อนตัวอยู่หลังทิวมะพร้าว สลับกับดงปาล์มที่โบกสะบัดสุดลูกหูลูกตา และไร่นาเขียวชอุ่มผืนกว้าง 
อันที่จริงชายหาดของรัฐกลันตันเองก็นับว่าสวยงามไม่น้อย ทั้งหาดแสงจันทร์ หาดเสียงเพลง หาดเสียงกระซิบ และหาดเจ็ดทะเลสาบ หากมัวอ้อยอิ่งกับเบี้ยใบ้รายทาง กลัวว่าจะไปไม่ถึงเกาะเปอร์เฮ็นเทียนเสียเปล่า ๆ 
แท็กซี่วิ่งตะบึงเข้าสู่ชายขอบของเขตรัฐกัวลา ตรังกานู(Kuala Terengganu) ป้ายบอกกัวลา เบซุท ทำให้ฉันยิ้มออก เราเข้าใกล้เปอร์เฮ็นเทียนเข้าทุกที
แล้วก็พบว่า บรรยากาศแถวท่าเรือคึกคักใช่ย่อย เมื่อนักเดินทางจากทั่วโลกไปสุมทุมเดินเพ่นพ่านรอลงเรือกันอย่างครึกครื้น 
เรื่องคุมเข้มกฏระเบียบ มาเลเซียขึ้นชื่ออยู่แล้ว ขนาดสปีทโบ๊ทที่เรานั่งกันแต่ละลำ ต้องมีชูชีพสภาพดีพร้อมใช้งานให้ผู้โดยสารทุกคน ข้อสำคัญห้ามบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่กำหนดเด็ดขาด อย่างลำที่ฉันนั่งพอลูกเรือครบ 8 ชีวิต เรือเบิ้ลเครื่องบ่ายหน้าออกสู่ทะเลทันที 
สปีดโบ๊ทลำน้อย ห้อกลางทะเลสีครามฝ่าคลื่นลูกโต โต้ลมห่มคลื่นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เรือพาคนรอนแรมมาถึงเกาะเปอร์เฮ็นเทียนจนได้
ความที่เกาะเปอร์เทียนนั้นมีขนาดใหญ่ บริการเสริมของสปีดโบ๊ทที่นี่คือการพาผู้โดยสารตระเวนส่งตามหาดและอ่าวต่าง ๆ รอบเกาะทั้ง 2 เกาะ
ที่บอกว่า 2 เกาะ เพราะเปอร์เฮ็นเทียนนั้น ประกอบไปด้วยเกาะเล็กและเกาะใหญ่ เกาะเล็กมีชื่อว่า เปอร์เฮ็นเทียน เคซิล ส่วนเกาะใหญ่ คือเปอร์เฮ็นเทียน เบซาร์ 
“ลองบีช(Long Beach)” ฉันตะโกนโต้เสียงเครื่องยนต์เรือที่ดังกระหึ่ม บอกที่หมายแก่โชเฟอร์ ลองบีชเป็นหาดยอดฮิตบนเกาะเล็ก 
ไม่เพียงเป็นหาดยอดนิยม แต่ลองบีช ยังเป็นเหมือนรีเซฟชั่นประจำเกาะ เรียกว่า บทเริ่มต้นสำหรับผู้มาเยือน ส่วนใหญ่เริ่มต้นที่หาดงามแห่งนี้ ฉันเป็นอีกคนหนึ่งที่เลือกเดินตามแบบฉบับของนักเดินทาง 
เกลียวคลื่นระลอกขาวพริ้วพราย ซัดสาดเซาะหาดทรายขาวละเอียดที่ทอดยาวสมชื่อ”ลองบีช” เบื้องบนคือแผ่นฟ้าครามสด เบื้องล่างคือน้ำเขียวใสราวกับกระจกบานใหญ่ ดึงสายตาทุกคู่บนเรือให้ก้มลงมองผืนทรายนวลเนียนใต้ท้องทะเลอย่างไม่อยากละสายตา 
แดดสาดเปรี้ยงกระทบผิวน้ำผืนทราย แสงระยิบวาววับแยงเข้าลูกตาจนต้องเบือนหน้าหนี
ลองบีชช่วงพระอาทิตย์ตรงหัวคึกคักสมกับเป็นหาดยอดฮิต หนุ่มสาวนักเดินทางจากทั่วทุกมุมโลกนอนผึ่งแผ่ทอดเรือนกายให้ลำแสงอาบไล้ แทบทุกตารางเมตรของลองบีชจึงเต็มไปด้วยสีสันของบิกินนีสีสันสดใสตัดกับผืนทรายขาวเนียลละมุน 
ถึงบนชายหาดของลองบีชจะคราคร่ำไปด้วยน้องนางนุ่งน้อยห่มน้อย แต่สาวชาวเกาะผู้เป็นเจ้าถิ่น ยังคงห่อห่มอาภรณ์บนเรือนกายอย่างมิดชิด 
รอจนแดดร่มลมตก ถึงได้ออกมาเดินโต๋เต๋ชื่นชมความงามของลองบีช ยิ่งเดินยิ่งรู้สึกว่าบนเกาะแห่งนี้คึกคักพอตัว ทั้งโรงแรม โรงเรียนดำน้ำ ร้านขายของที่ระลึก คาเฟ่ริมทะเล มีครบครัน
เดินเกร่แถวลองบีชจนเริ่มเอียน เลยอยากลองเปลี่ยนบรรยากาศไปหาดอื่นดูบ้าง ฉันเดินลัดเลาะผ่านป่ารกครึ้มตามคำแนะนำของหนุ่มชาวเกาะ สิบห้านาทีผ่านไปมาโผล่อีกทีที่คอรัล เบย์(Coral Bay)หาดฝั่งตะวันตกอันเงียบสงบของเกาะเปอร์เฮ็นเทียนเล็ก 
ถึงหาดไม่ขาวนวลเนียน ลมไม่โกรกเย็นสบายเท่ากับฝั่งลองบีช แต่คอรัล เบย์มีเสน่ห์เฉพาะตัวตรงที่เงียบ 
วันรุ่งขึ้น เช่าเรือให้ไปส่งที่เกาะเปอร์เฮ็นเทียนใหญ่ จากเกาะเล็กสู่เกาะใหญ่เรือสปีดโบ๊ทลำน้อย ซิ่งแค่สิบนาทีก็ข้ามฟากไปถึงเกาะใหญ่ เรือนพักบนเกาะนี้ค่อนไปทางหรู บ้านส่วนใหญ่จะอยู่ติดชายทะเล เปิดประตูก็เจอทะเลสีเขียวสด 
ฉันปักหลักที่หาดทูน่า หาดนี้ยังคงเงียบสงบ เพราะต่างคนต่างมีกิจกรรมของตัวเอง ดำน้ำบ้าง อาบแดดบ้าง นอนผึ่งพุงอ่านหนังสือใต้ต้นมะพร้าวบ้าง บางคนนอนฟังเสียงคลื่นเคล้าอากาศบริสุทธิ์ ท่ามกลางความสงบแห่งอ้อมกอดของเกลียวคลื่น และสายลมกรุ่นจากผืนทะเลกว้าง 
นอนเท้งเต้งบนเปลญวนใต้ทิวมะพร้าว รับลมทะเลที่โชยกรุ่น แค่ประเดี๋ยวประด๋าวก็ต้องผุดลุก คว้าอุปกรณ์ลงไปดำผุดดำว่ายในน้ำดูบ้าง 
แล้วก็พบว่า นอกจากปลาจะชุมแล้ว ปะการังก็งามใช่ย่อย สำหรับคนตั้งใจจะมาดำน้ำที่มาเลเซีย หลายคนอาจจะนึกถึงแต่เกาะบอร์เนียว โดยเฉพาะที่เกาะสิปาดัน แต่ถ้าไม่อยากไปไกล เปอร์เฮ็นเทียนก็น่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด 
เพราะนี่คือเกาะสวรรค์กลางทะเลจีนใต้ ที่มาเลเซียมีไว้อวดชาวโลกได้อย่างไม่อายใคร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น