วันเสาร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เอสก้า บิสโทร (Esca Bistro) ชั้น 3 พาราไดซ์พาร์ค



สายวันที่อากาศกำลังเย็นสบาย ไม่มีนัดที่ไหน ไม่ต้องเร่งรีบ อยากนั่งกินอาหารสบายๆ ชิลล์ๆ ในที่สุดก็มาหยุดอยู่ที่หน้า เอสก้า บิสโทร (Esca Bistro)
ชั้น 3 พาราไดซ์พาร์ค ร้านอาหารอิตาเลี่ยนที่ตกแต่งเหมือนห้องนั่งเล่น และ ห้องอาหารที่ดูไม่หรูหราและเป็นทางการจนเกินไปนัก
 
ที่นี่ เราได้พบกับคุณผึ้ง วรณี วิสุทธินันท์ สาวเก๋ที่สวมบทบาทเป็นทั้งเจ้าบ้านที่ออกมาดูแลลูกค้าด้วยตัวเอง หลังจากแนะนำอาหารแล้วเธอก็เข้าครัวไปรับตำแหน่ง Executive Chef ดูแลทีมพ่อครัวและลงมือปรุงด้วย
คุณผึ้งเล่าให้ฟังว่า ซึมซับการทำอาหารมาตั้งแต่เด็กๆเนื่องจากครอบครัวทำธุรกิจร้านอาหาร มีทั้งร้านอาหารญี่ปุ่น ยุโรป ทำให้มีโอกาสฝึกฝนฝีมือการทำอาหารมาตลอด จนปลายปีที่ผ่านมาจึงตัดสินใจเปิดร้านอาหารอิตาเลี่ยนเป็นของตัวเอง
 
" เป็นร้านกึ่งไฟน์ ไดนิ่ง คุณภาพเทียบเคียงกับอาหารในโรงแรม แต่ราคาย่อมเยากว่าเพราะอยากให้ทุกๆคนได้ลองชิม ในบรรยากาศที่ดูสบายๆเป็นกันเอง " เจ้าของร้านบอกอย่างนั้น
 
สำหรับรสชาติอาหารนั้น บอกได้เลยว่าเป็นรสชาติแบบอาหารอิตาเลี่ยนที่ถูกปากคนไทยคือไม่มันจัด หรือ เลี่ยนจัดจนเกินไป ที่รับประทานแล้วติดใจในความเข้มข้นของรสชาติขอยกให้ สปาเก็ตตีไส้กรอกเยอรมันสไปซี่ (220 บาท) จานนี้มีทั้งพริกแห้ง กระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ ผัดมากับเส้นและไส้กรอกเยอรมันที่รสชาติเต็มไปด้วยสมุนไพร ความเผ็ดจี๊ดจ๊าดได้ใจรสออกเค็มหน่อยๆ ใครชอบสปาเก็ตตีแนวนี้ขอแนะนำ
 
ถ้าอยากกินซอสครีมแนะนำให้ลองพาสต้าซอสครีมกุ้ง (240 บาท) เลือกเส้นได้ตามชอบ แต่ครีมซอสที่นำมาปรุงนี้จะเป็นครีมซอสที่ใช้ชีสพาเมซานมาผสมกับซอสมะเขือเทศ โรยด้วยไข่ปลาแซลมอนทำให้ครีมมีสีส้มสวย รสชาติกลมกล่อมไม่มันจนเกินไป
 
ส่วนอาหารเรียกน้ำย่อยนั้น สั่งมา 2 เมนูก็ถูกปาก สลัดทูน่า (280 บาท) ซึ่งนำเอาเนื้อทูน่าลอยด์สดมาคลุกกับปาปริก้า เกลือ พริกไทย แล้วทำให้สุกเฉพาะผิวนอก เสิร์ฟคู่กับผักร็อกเก็ตพันธุ์ที่มีรสออกขมเพื่อตัดกับเดรสซิ่งรสเปรี้ยวของบัลซามิค
 
อีกจานเป็นหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ผัดซอสมะเขือเทศ (180 บาท) เป็นซอสมะเขือเทศโฮมเมดสูตรของเอสก้า กินเพลินเช่นกัน
อาหารจานหลักมื้อนี้ เจ้าของร้านชวนชิมพอร์คช้อปเสิร์ฟกับซอสเห็ด (360 บาท) เนื้อหมูน้ำหนัก 350 กรัม เป็นหมูดำที่มีไขมันแทรกอยู่ในเนื้อ เวลานำไปกริลล์เนื้อจะนุ่มไม่กระด้าง ราดด้วยซอสเห็ด รับประทานคู่มันบดรสละมุน
 
ของหวานแน่นอนว่าต้องเป็นทีรามิสุ (180 บาท) เนื่องจากแต่ละร้านก็มีสูตรแตกต่างกันไป คุณผึ้งบอกว่าในชั้นของขนมนั้นเธอจะใช้ขนมเค้กไข่ทำเองใส่ลงไปแทนเลดี้ฟิงเกอร์ ทำให้เนื้อของขนมมีรสไม่หวานจัด หากความเข้มข้นนั้นก็คงอยู่เสิร์ฟคู่ด้วยสตรอเบอร์รี่สด
อาหารยามสายจึงไหลเลื่อนไปถึงบ่าย ค่อยๆละเลียดชื่นชมกับรสชาติของอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศที่แสนสบาย เวลาที่ไม่ต้องรีบเร่งนี้มันแสนสุขจริงๆ 
 
ใครที่สนใจจะมาลองชิมอาหารที่ Esca Bistro มาชิมได้ทั้งวัน ร้านเปิดปิดตามเวลาของพาราไดซ์พาร์ค  ขึ้นบันไดเลื่อนไปที่ชั้น 3  สำรองโต๊ะล่วงหน้าได้ที่ โทร.02-787-2338

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น