Six Senses Yao Noi

หากต้องการชวนคนรักไปติดเกาะ เหมือนอยู่แดนสวรรค์ แนะนำให้จูงมือกันไปที่ซิกซ์เซ้นส์ เกาะยาวน้อย กระชับความรักให้แข็งแรงขึ้นอีกนิด

พูดถึงเกาะยาว เป็นอีกเกาะหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ และจังหวัดพังงา มีอยู่ 2 เกาะที่น่าสนใจคือ เกาะยาวน้อย และเกาะยาวใหญ่ เป็นเกาะที่อยู่ในทะเลกึ่งกลางระหว่าง 3 จังหวัดที่ว่านี้ เกาะยาว จึงสามารถเดินทางมาเที่ยวได้จากทั้ง 3 จังหวัด ทว่ามาจากจังหวัดภูเก็ตน่าจะเดินทางสะดวกกว่า Six Senses Yao Noi มีบริการรถรับส่งระหว่างสนามบินภูเก็ต ลงเรือเร็ว Speedboat ที่อ่าวปอมารีน่าใช้เวลา 40 นาทีเท่านั้นก็ถึงท่าเรือของโรงแรม

ฉัตรวรุณ ชูศิริ Sales Executive เล่าว่า โรงแรมนี้เปิดบริการมาได้ 5 ปี บนพื้นที่ 21 ไร่ โดยปรับพื้นที่จากสวนยางพารามาเป็นสถานที่พักผ่อน ส่วนใหญ่ช่วงไฮซีซันจะมีนักท่องเที่ยวจากฝั่งยุโรป อย่างเช่น เยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส เดินทางมาพักผ่อนอย่างน้อย 1 สัปดาห์ ห้องพักของโรงแรมมีทั้งหมด 5 แบบก็คือ Pool Villa มีทั้งหมด 35 หลังพื้นที่ใช้สอยแต่ละหลัง 154 ตารางเมตร มีสระว่ายน้ำ มองเห็นวิวทะเล ห้องแบบ Ocean Deluxe Pool Villa มีทั้งหมด 6 หลัง พื้นที่ 181 ตาราเมตร แบบ Pool Villa Suite มีทั้งหมด 4 หลัง แบบ Two Bedroom Pool Villa มี 7 หลัง พื้นที่ใช้สอยแต่ละหลังเท่ากับ 228 ตารางเมตร แบบ The Retreat มี 1 หลัง บนพื้่นที่ 645 ตารางเมตร ทุกหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว

“เดิมมีห้องพักพิเศษชื่อ ท็อปฮิล รีเซิร์ฟ เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุด มี 3 ห้องนอน มีสระว่ายน้ำใหญที่สุดมองเห็นวิวที่สวยที่สุด มองเห็นเกาะแก่งต่างๆ เช่นเกาะห้อง ฯลฯ แต่ปัจจุบันนี้เราเอามาทำเป็นห้องอาหารให้แขกทุกคนมีโอกาสขึ้นมาสัมผัสบรรยากาศที่ดีที่สุดนี้ ห้องอาหารจะ เปิดบริการ 11.00-23.00 น. แต่เรายังเก็บห้องนอนที่ 3 เอาไว้ทำกิจกรรม Sun set to Sun Rise ให้แขกมาพัก 1 ห้อง หลังจากห้องอาหารปิดเขาก็จะได้มีเวลาส่วนตัวด้วยกันจนถึงตอนเช้าพระอาทิตย์ขึ้น สามารถสั่งอาหารเช้าไปส่งถึงห้องนอนได้ ส่วนใหญ่คนที่มาจองก็จะเป็นคู่ฮันนีมูนหรือไม่ก็ฉลองครบรอบวันแต่งงาน ”

โรงแรมแห่งนี้ไม่มีล็อบบี้ และเคาท์เตอร์เช็คอิน พอเรือเร็วมาส่งที่ท่า ก็จะมีพนักงานที่รู้จักกันในนามของ Butler ขับรถมารับไปส่งยังวิลล่าที่พัก และทำการเช็คอินกันที่นั่น แต่ผู้ที่คอยให้บริการ ณ ที่นี้ไม่ใช้ชื่อเรียกว่า Butler แต่เรียกว่า เจม(GEM) ย่อมาจาก Guest Experience Maker คอยดูแลให้คำปรึกษาตลอดเวลาที่พักอยู่ที่นั่น 24 ชั่วโมงเลยก็ว่าได้

"สิ่งที่เรียกว่าบริการฟรีก็จะมี ห้องสมุด ซึ่งเรามีคอมพิวเตอร์บริการใช้ฟรี เช็คเมล เล่นอินเตอร์เน็ทต่างๆ พร้อมทั้งหนังสือ แมกกาซีน ดีวีดีหนัง และเพลงให้ยืมกลับไปที่ห้องได้ หรือสามารถนำหนังสือมาแลกเปลี่ยนกันอ่านก็ได้ หนังสือส่วนใหญ่จะเป็นภาษาอังกฤษ รัสเซีย เยอรมัน ญี่ปุ่น ฯลฯ มีพนักงานบริการคอยให้คำปรึกษาเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว หรืออัตราการแลกเงิน ฯลฯ ใกล้กับห้องสมุดเรามีบาร์ ชื่อ The Den เปิดให้บริการตั้งแต่เที่ยงวันไปจนดึกดื่น ห้องนี้ไม่ต้องจองล่วงหน้าเหมือนห้องอื่นๆ จะเสิร์ฟอาหารเบาๆ อย่างแซนวิช เบอร์เกอร์ ทาปาส มีเครื่องดื่มแบบง่ายๆ ส่วนห้องอาหารเรามีทั้งหมด 3 ห้องก็คือ เดอะลิฟวิ่งรูม, เดอะฮิลท็อปรีเซิร์ฟ, เดอะไดนิ่งรูม ซึ่งต้องจองก่อนล่วงหน้า"

นอกจากนี้ยังมีร้านขายของเล็กๆ เปิดบริการตั้งแต่ 9.00-21.00 น. มีทั้งของที่ระลึก ชุดว่ายน้ำ สบู่ แชมพู ครีมกันแดด ฯลฯ สิ่งที่บริการฟรีอีกอย่างก็คือ ไอศกรีม คุกกี้ เปิดให้บริการฟรีตั้งแต่ 07.00-19.00 น. มีไอศกรีมโฮมเมดมากกว่า 30 รสชาติ ไม่ใส่น้ำตาลและสี ค่ำคืนมีบริการฉายหนังให้ชมฟรี เรียกว่า Movie With the Stars บริการริมชายหาดเวลา 21.30 น. หลังอาหารค่ำ แถมแจกข้าวโพดคั่วฟรีระหว่างดูภาพยนตร์ ช่วงเช้ามีกิจกรรมโยคะ ฟรีทุกเช้า เวลา 08.00-09.00 น. ที่ลานโยคะเหนือป่าโกงกาง ต้องออกกำลังกายเดินขึ้นบันไดไป ประมาณ 70 ขั้น สำหรับวันจันทร์-พุธ-ศุกร์ มีคลาสสอนทำอาหารไทย โดยเชฟไทย ค่าเรียนประมาณ 4,000 บาท สอนทำประมาณ 4 อย่าง เช่น สลัด จานหลัก และขนมหวาน

“โรงแรมเราเน้นเรื่องสุขภาพดีและรักษ์สิ่งแวดล้อม ห้องอาหารเราจะใช้พืชผักออร์แกนนิคที่เราปลูกเอง ถ้าไม่พอก็จะสั่งจากเชียงใหม่ ห้องอาหารมี 3 ห้องคือ The Living Room and Terrace ห้อง The Dining Room และ Hill top Restaurant ที่สามารถมองเห็นวิวเกาะแก่งต่างๆ แบบพาโนราม่าสวยงามถือว่าเป็นมุมไฮไลท์ของโรงแรม พูดถึงธรรมชาติเราปลูกป่าโกงกางขึ้นมาใหม่และพยายามดูแล เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ต่างๆ นกต่างๆ รวมทั้งนกเงือก เรายังคงเก็บต้นยางพาราเอาไว้ เพราะเดิมแถวนี้ก่อนเป็นโรงแรมเคยเป็นสวนยางมาก่อน เราก็จะกรีดยางให้ฝรั่งที่สนใจดู แล้วเอาไปให้ชาวบ้านขายนำเงินเข้าหมู่บ้าน และเราก็ช่วยอุดหนุนชาวบ้านเรื่องการจัดท่องเที่ยวทางน้ำโดยใช้เรือหางยาวของคนในชุมชนให้เขามีรายได้ พนักงานของโรงแรมไปช่วนสอนภาษาอังกฤษให้กับเด็กๆ ในหมู่บ้าน อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง”

หากนักท่องเที่ยวต้องการออกไปเที่ยวในชุมชนที่เหมือนเป็นเมืองเล็กๆ มีวัด มีมัสยิด มีที่ทำการไปรษณีย์ เพนท์ผ้าบาติค มีร้านอาหารของชาวบ้าน สามารถใช้บริการวิลเลจทัวร์ ใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง (พร้อมไกด์) หรือจะเช่าจักรยานปั่นไปเที่ยวในหมู่บ้านเองก็ได้ หากเมื่อยก็กลับมาใช้บริการที่ซิกเซ้นท์สปา เปิดบริการตั้งแต่ 9.00-20.30 น. หรือจะใช้บริการ ยิม ซาวน์น่า สตีมฟรี ก็ยังได้

เรียกว่าเพียบพร้อมทั้งบรรยากาศ ความสะดวกสบาย และกิจกรรมที่หลากหลาย...เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขบนเกาะสวรรค์อันดามันอย่างแท้จริง

----------------------------

ราคา : เริ่มตั้งแต่ 30,000 บาท ไปจนถึงกว่า 100,000 บาท 
จุดเด่น : ทิวทัศน์ของท้องทะเลที่สวยงาม สภาพแวดล้อมในโรงแรมร่มรื่น เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก
ที่ติดต่อ : โทรศัพท์ : 0 7641 8500 Fax: 0 7641 8518 
เว็บไซต์: www.sixsenses.com