จะเลือกนั่งโต๊ะกาแฟเก๋ๆสำหรับสองที่นั่งบริเวณหน้าร้าน หรือว่าจะเข้ามุมโซฟาที่มีให้เลือกสองมุม คือ ใต้โคมไฟสีเหลืองให้อารมณ์อุ่นๆ หรือ โซฟาด้านในสุดที่มีมุมมองเปิดกว้างจะมองลงล่างหรือแหงนหน้าก็สอดส่ายสายตาได้ไกลจนหมดความสามารถ หรือ จะเลือกนั่งเก้าอี้ไม้ขัดสีที่ให้อารมณ์เหมือนเฟอร์นิเจอร์เก่าๆที่ดูเก๋า เข้าคู่กับค็อกเทลบาร์ที่ดูขึงขัง
เราเลือกนั่งโซฟานิ่มด้านในสุดที่พอจะรับรองกลุ่มเพื่อนเก่าที่พร้อมหน้ามาเม้าท์กันได้สบายๆโดยไม่รบกวนโต๊ะเพื่อนบ้าน เริ่มต้นกันด้วยเมนูกาแฟร้อนๆเพื่อวอร์มกระเพาะ ก่อนที่จะตามด้วยมื้อใหญ่
สำหรับเมนูอาหารที่ To Die For สาขาพาราไดซ์ พาร์ค นี้ค่อนข้างเน้นเมนูอาหารจานเดียวมากกว่าสาขาแรก แต่คุณนิดา สุทัศน์ ณ อยุธยา ผู้รับผิดชอบในเรื่องการสร้างสรรค์เมนูอาหาร กล่าวว่ายังเป็นอาหารสไตล์โมเดิร์น ยูโรเปี้ยน ฟู้ด ที่พิถีพิถันในการเลือกเครื่องปรุงอาหารและวัตถุดิบ ซึ่งเพิ่มอาหารจานเดียวสไตล์เอเชียขึ้นมาในสาขาใหม่เพื่อให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในห้างสรรพสินค้าด้วย
มื้อนี้เราเลยได้ลิ้มลองทั้งเมนูใหม่สไตล์เอเชีย และเมนูคลาสสิกสไตล์โมเดิร์นยูโรเปี้ยนไปพร้อมกัน อาจเป็นมื้อใหญ่หน่อยอย่าตกใจเพราะช่วยกันแชร์หลายคน เรียกน้ำย่อยกัน 2 เมนู ได้แก่ หอยแมลงภู่นิวซีแลนด์อบกับซอสมะเขือเทศและใบโหระพา รสชาติเข้มข้นกลิ่นของโหระพาก็หอม เนื้อหอยก็ตัวโตเคี้ยวได้เต็มคำ ตามด้วยสลัดสเต็กแซลมอนย่างแบบสุกพอดี เสิร์ฟกับอัลมอนด์ องุ่นแห้งและน้ำสลัดอิตาเลียน เป็นอาหารจานผักที่สดชื่นรสออกเปรี้ยวถือได้ว่าเป็นอาหารสุขภาพจานหนึ่งที่รสดีทีเดียว
ต่อกันด้วยอาหารจานเดียวที่รสชาติถูกปากคนไทยที่ชอบรสจัด พาสต้าผัดปลาเค็มกับพริกแห้งโรยด้วยปลาสลิดกรอบ มาทั้งรสเค็มกลิ่นหอมของปลาเค็ม ความเผ็ดของพริกทอด แนมด้วยเนื้อปลาสลิดทอดกรอบ เมนูง่ายๆทว่าล้ำลึกทีเดียว เว้นแต่คุณไม่ถูกกับปลาเค็ม
ส่วนเมนูเอเชียจานเดียว น่าสนใจมีหลายจาน ถ้าเป็นสไตล์ไทยขอแนะนำปลาแซลมอนฟูและน้ำปลาเห็ด เสิร์ฟกับไข่ต้มยางมะตูม ข้าวหอมมะลิ และน้ำซุปใสให้ซดคล่องคอ รสชาติคล้ายยำปลาดุกฟูแต่มีความอ่อนละมุนกว่า
เมนูหมูก็น่าสน หมูตุ๋นสามสหาย ที่ประกอบด้วย หมูสามชั้น หมูยอ กุนเชียง นำไปตุ๋นจนได้รสได้กลิ่น เสิร์ฟมาบนข้าวเหนียวนึ่ง (นุ่มมาก) และไข่ต้มยางมะตูมที่ต้มได้สวยมากจริงๆ พร้อมกับน้ำซุปใสร้อนๆ
แต่ถ้าอยากลิ้มรสชาติแบบเกาหลี แนะนำ หมูดำคุโรบะตะย่างแบบเกาหลี จานนี้เสิร์ฟมาเป็นชุดพร้อมข้าวผัดกระเทียม กิมจิ ผักสด และซุปเต้าเจี้ยว เรียกว่าชุดนี้กินคนเดียวอิ่มพอดี
ส่วนของหวาน จานเด่นซูเปอร์สตาร์ของ To Die For ยกให้ บานาน่า พาราดิสโซ่ กล้วยไข่เชื่อมหอมกลิ่นบรั่นดี มาพร้อมไอศครีมวานิลลา เข้ากั๊นเข้ากัน ถ้ากินกันบ่อยแล้วอยากให้ลอง พันนาค็อตตาสามสหาย สั่งจานเดียวได้ชิมทั้งรสวานิลลา บัตเตอร์สก็อตและช็อกโกแลต
นั่งกินข้าวกับสหายในโซฟานิ่มๆช่วยให้หายว้าวุ่นใจ แถมลืมวันเวลาเร่งรีบได้สงัด ใครว่าบรรยกาศไม่สำคัญกับชีวิต อยากเชิญมาลองสัมผัสอารมณ์แบบร้านกาแฟในปารีสดูที ความสุขของชีวิตมีอยู่ถ้าเรารู้จักค้นหา
ขอให้ทุกท่านเบิกบานกับอารมณ์กาแฟในวันหยุดนะคะ แม้ว่าจะไม่ดื่มกาแฟก็มิเป็นไรของให้มีความสุขกับเครื่องดื่มแก้วโปรดของคุณก็เพียงพอ
หมายเหตุ :ร้าน To Die For ชั้น 3 พาราไดซ์ พาร์ค โทร.02-787-2402-3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น