หลังฝนตก...ท้องฟ้าแจ่มใส ลมพัดสบาย บนถนนอุทยาน ซอย 6 หรือเดิมชื่อถนนอักษะ หมูหวานและชาวคณะเพื่อนกินไปเยือนอย่างเป็นทางการ ณ ร้านยามเย็น ที่นี่มี ทอดมันพริกขี้หนู ที่หมูหวานหมายปอง หวังจะไปเชยชม เพราะทอดมันรสแซบตัวเดียวแท้ ๆ
ก๊วนกินพากันดั้นด้นออกจากพระนครไปยังนครปฐม เพื่อกัดกิน ‘ทอดมันพริกขี้หนู’ กัดโดนพริกแล้วรู้สึกถึงความสดของพริก เสิร์ฟโรยหน้าด้วยใบกะเพราทอดกรอบ กับพริกขี้หนูแห้งทอด ตอกย้ำความเผ็ดแซบเหมาะแก่นักชิมซาดิสต์เยี่ยงหมูหวานเป็นยิ่งนัก (ฮา) ถ้าเผ็ดนักเขามีอาจาดไว้เป็นกันชน
อีกเมนูที่หมูหวานว่าแปลกดีคือ ข้าวต้มแห้งทะเล ชามละ 70 บาท มีปลาเก๋า ปลากะพง กุ้ง ปลาหมึก ส่วน ข้าวต้มแห้งหมูสับบะเต็ง ชามละ 40 บาท ทรงเครื่องมาทั้งหมูสับ กุ้งแห้ง และ บะเต็ง (คล้ายหมูตุ๋นมีรสเค็ม ๆ หวาน ๆ) หมูหวานว่าทุกอย่างกำลังดีแล้ว แต่ข้าวต้มเละไปหน่อย สำหรับหมูหวานชอบข้าวต้มที่ดูเป็นเม็ดกว่านี้นิดหนึ่งถึงจะโดนใจเต็มร้อย
ใครเป็นแฟนพันธุ์แท้ ‘ยำผักกูด’ ร้านนี้มี ยำผักกูด กุ้งสด ไข่ต้ม 90 บาท ทางร้านยำมาอร่อยอย่างบอกใคร เห็นแค่ไข่ต้มก็ใจละลายแล้วล่ะ... คุณอี๊อ่อ - กุลพันธ์ จรัลชวนะเพท เจ้าของร้านยามเย็น เล่าว่า “ชื่อยามเย็นเพราะรู้สึกว่า ถนนอุทยานตอนเย็น ๆ บรรยากาศดี สมัยก่อนมีคู่หนุ่มสาวมาเดินเล่น เป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย ตอนแรกเรามาสร้างเป็นบ้านก่อน ตอนหลังก็คิดจะมาเปิดร้านอาหาร เมนูแรก ๆ ของร้านคือทอดมันพริกสด เครื่องแกงตำกันสด ๆ ทุกวัน สไตล์โฮมเมด ทำเหมือนกับให้คนในครอบครัวรับประทาน เอาเนื้อปลากรายมาผสมกับเครื่องแกงที่โขลกมีพริกขี้หนู กระเทียม ตะไคร้”
เจ้าของร้านเล่าต่อว่า ข้าวต้มแห้ง มีอีกชื่อหนึ่งว่าข้าวต้มเรือโป๊ะ เป็นข้าวต้มของคนเรือ ไม่มีน้ำเยอะเพราะเขาทำกินกันในเรือเดี๋ยวโคลงเคลงน้ำหก ส่วนใหญ่ใส่สัตว์ทะเลที่จับได้ เช่น เนื้อปลา ปลาหมึก กุ้ง ใครไม่ถนัดข้าวต้มแบบแห้ง ๆ ขอน้ำซุปเอาไว้ซดกันฝืดคอได้
"สำหรับ ยำผักกูด เรามีกรรมคือ นำผักกูดไปลวกน้ำร้อน แล้วน็อกด้วยน้ำเย็นเพื่อให้ยังมีความเขียว สด กรอบ ส่วนน้ำยำ ใส่น้ำพริกเผานิดหน่อย บีบมะนาว น้ำปลา พริกขี้หนูสด น้ำตาล กะทิ โรยด้วยหอมเจียว เสิร์ฟกับไข่ต้ม และกุ้งสดลวก"
กระดูกหมูผัดปลาเค็ม ถือเป็นเมนูคิดเองของทางร้าน เพราะส่วนใหญ่เราจะเห็นเมนู หมูสับผัดปลาเค็ม คุณอี๊อ่อ คิดว่าน่าจะมีความแปลกใหม่บ้าง ก็เลยนำกระดูกซี่โครงหมูอ่อน ไปตุ๋นจนเปื่อย แล้วนำมาผัดกับปลาเค็ม ปรุงรสด้วยพริกขี้หนูให้มีความเผ็ดเล็กน้อย เมนูสำหรับคนรักสุขภาพก็มี เห็ดรวมผัดกระเทียม ใช้เห็ด 5 อย่างเช่น เห็ดออรินจิ เห็ดหูหนูดำ เห็ดภูฏาน เห็ดยานางิ เห็ดฟาง ผัดกับพริกแห้ง และพริกไทยสด และ เกี๊ยวกุ้ง ใช้กุ้งทะเลตัวใหญ่ผสมกับมันหมูเล็กน้อย จุดประสงค์คือเคี้ยวแล้วต้องโดนตัวกุ้ง ถ้าไม่โดนยินดีคืนเงิน ว่างั้น ราคาตัวละ 8 บาท ขั้นต่ำต้องสั่ง 5 ตัว จึงจะผลิต
ยังมี สุกี้ปลา เพราะส่วนใหญ่เป็นสุกี้หมูและทะเล ไม่ค่อยมีใครทำสุกี้ปลา เนื่องจากทางร้านสั่งปลามาเยอะก็เลยเหลือเฟือ ใช้ปลากะพงล้วน ๆ สูตรร้านนี้ปรุงรสด้วยซอสพริกผสมกับเต้าหู้ยี้นิดหน่อย เนื่องจากคนรุ่นใหม่ไม่ค่อยปลื้มกลิ่นเต้าหู้ยี้แบบโบราณ เจ้าของร้านว่าลูกค้าร้านนี้ส่วนใหญ่มักมาเป็นครอบครัว หรือไม่บางทีก็มีคนหนุ่มสาวคู่รัก ที่มาเดินทอดน่องโรแมนติกกันตอนเย็นย่ำ แวะมาฝากท้องที่ร้าน
ร้านยามเย็นเปิดวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 14.00 - 23.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิด 10.00 - 23.00 น. หยุดวันจันทร์ วันพฤหัสมีดนตรีไทยมาบรรเลง ทางมาร้านคือถ้ามาทางถนนบรมราชชนนี เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพุทธมณฑลสาย 4 เจอสามแยก เลี้ยวเข้าถนนอุทยานประมาณ 500 เมตร ร้านอยู่ตรงถนนอุทยานซอย 6 ติดกับหมู่บ้านนันทวรรณ โทร. 0 2496 8533 อย่าลืมสั่งทอดมันพริกขี้หนูนะจ๊ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น