คาดว่าหลายคนคงเคยได้ยิน และรู้จักกันอยู่บ้างแล้ว
สำหรับโรงแรม หรือที่พักแบบ Eco รักษ์โลก รักษ์ธรรมชาติ ไม่ทำร้ายสมดุลในพื้นที่นั้นๆ
ให้เสียไปด้วยความฟุ่มเฟือยกับการพักผ่อน และท่องเที่ยว คอนเซ็ปต์ประมาณนี้เติบโตขึ้นในใจคนรุ่นใหม่
และกลายเป็นที่มาของ “Bangkok Tree House”บ้านหลังเล็กที่พร้อมต้อนรับผู้คนที่อยากมาหลบร้อนมานอนพัก
ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวที่รายล้อม สายน้ำพัดเอื่อยที่โอบอุ้มความรู้สึกเหนื่อยหน่าย
วุ่นวายของเมืองกรุงให้เจือจางลงไป ขอเรียกอย่างเต็มปากเต็มคำเลยว่า ที่นี่คือ“โอเอซิส”ของกรุงเทพฯ ที่มีหน้าตาประณีต เรียบง่าย แต่คลาสสิค


ทันทีที่มาถึง
สายตาก็ต้องสะดุดกับโคมไฟกระบอกไม่ไผ่บนเพดาน ความเรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยจินตนาการนี้ถ่ายทอดไปถึงดีไซน์ของห้องอาหาร
และเมนูอาหารแต่ละจานอย่างชัดเจน แมวเหมียวตัวอ้วนเดินอาดๆ มาทักทายเราอย่างเป็นมิตร
พร้อมทั้งชักชวนให้นั่งชิลล์เล่นๆ ลองเมนูรักสุขภาพกันสักนิดรองท้องก่อน
อาหารจานแรก
“ม้าฮ่อตำรับคุณย่า”
(Grandmais Ma Hor) เสิร์ฟลงโต๊ะเป็นออร์เดิร์ฟเรียกน้ำย่อย
แน่นอนว่าคนกรุงรุ่นใหม่ๆ อาจจะแปลกตาไปบ้างสำหรับเมนูนี้
ม้าฮ่อเป็นอาหารพื้นบ้านของภาคกลางทั่วไป แต่ที่นี่ดัดแปลงสูตรเล็กน้อยโดยใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์
แทนถั่วมาทำเป็นไส้ ซึ่งรสชาติออกเปรี้ยวอมหวานด้วยสับปะรด
เรียกน้ำย่อยได้ดีเลยทีเดียว

มาถึงจานหลักๆ
กันบ้าง “เอ้ก เบเนดิกต์ ราดซอสมัสมั่น”
(Bangkok Tree House Egg Benedict) รสชาติไม่จัดจ้าน
แต่เข้มข้นกลมกล่อมพอดี ซอสมัสมั่นรสชาติคุ้นเคย
แต่กลับสร้างความแปลกใหม่ให้จานนี้อย่างไม่น่าเชื่อ

“ข้าวหอมสมุนไพรน้ำพริกปู”ทีหอบไอเดียล้ำ
เสิร์ฟขึ้นโต๊ะพร้อมปิ่นโตดูคลาสสิคกว่าที่ไหนๆ ทั้งปลาสลิดพอดีคำ น้ำพริกกะปิ และข้าวหอมสมุนไพร
แกล้มด้วยผักต้ม เป็นอาหารบ้านๆ ของคนไทยมาช้านาน แน่นอนว่าหากแขกที่มาพักอยากไปทริปปั่นจักรยานเที่ยวชมรอบชุมชน
นี่จะเป็นปิ่นโตที่ทางโรงแรมเตรียมให้แขกสำหรับไปปิ๊กนิ๊กในมื้อกลางวันนั่นเอง

“ข้าวกล้องมันหวานซอสมะขาม”จานนี้หน้าตาดูเป็นอาหารฝรั่ง แต่รสชาติไทยๆ ที่ได้รสพอดีๆ ของมันหวาน และน้ำซอส เสิร์ฟพร้อมข้าวกล้อง ฟิวชั่นลงตัวเป็นอย่างดี


สังเกตว่า เมนูแต่ละจานของที่นี่ยังคงเน้นความสมบูรณ์ของพื้นที่บางน้ำผึ้งไว้อย่างประณีต อาหารประเภทผัก ปลา และข้าวกล้องที่เสริมสร้างบาล๊านซ์ และสุขภาพที่ดีให้ชีวิตไม่หนักท้องจนเกินไป มาลองดูเมนูเครื่องดื่มบ้าง ทั้ง น้ำมะนาวมิ้นต์ที่เปรี้ยวซ่า สร้างความสดชื่น กระชุ่มกระชวยในวันแดดจ้า น้ำมะม่วงปั่นใส่นมหวานพอดีๆ กลมกล่อม และน้ำชมพูแดงปั่นต่างก็เป็นผลไม้ที่หาได้ในพื้นที่ทั้งนั้น ไฮไลท์สำคัญคือ Blue Teaเป็นชาร้อนสุมนไพรสีฟ้าอมน้ำเงินที่เสิร์ฟมาพร้อมกับมะนาว แต่เมื่อบีบมะนาวลงในแก้ว ชาสีน้ำเงินเปลี่ยนเป็นสีม่วงเรียกความประหลาดใจให้ลูกค้า เป็นซิกเนเจอร์อีกแก้วที่ต้องไม่พลาดถ้ามาที่นี่



ตบท้ายด้วยของหวาน
ข้าวเหนียวมะม่วง, ไอศกรีมผลไม้,
กล้วยราดช็อคโกแล็ต
และ ผลไม้รวมมิตรจบมื้อนี้ด้วยความประทับใจที่อิ่ม
และสบายท้องด้วยอาหารออแกนิครักสุขภาพ


สำหรับห้องพักแต่ละห้องของโรงแรม
แม้จะมีชื่อที่หลากหลายแต่คงคอนเซ็ปต์เดียวกันไว้อย่างชัดเจน เป็นเรื่องราวของแมลง
และสัตว์ที่อยู่บริเวณพื้นที่นี้ เช่น ห้องผีเสื้อ ห้องผึ้ง ห้องหิ้งห้อย ห้องมด ฯ
ห้องพัก 3 ชั้นที่วัสดุหลักเป็นไม้
และไม้ไผ่ โปร่ง สบายด้วยสไตล์การตกแต่ง สีเอิร์ธโทนสร้างความรู้สึกอบอุ่นใจและเป็นกันเอง
สามารถรับลมจากระเบียงบนชั้น 2 ที่ยื่นออกมาจากห้องนอน
ทำให้ไม่เคอะเขิลในการพักผ่อนอย่างเต็มที่ สำหรับชั้นบนสุดเป็นผ้าใบไว้นอนรับลม
ชมดาวในยามค่ำคืน ได้ฟีลชิลล์ และโรแมนติกมากทีเดียว



นอกจากนี้ มุมสบายๆ ของโรงแรมที่พลาดไม่ได้ คือมุมห้องหนังสือเล็กๆ
ที่มีเบาะให้เอนตัวชิลล์ๆ พร้อมกับโปรแกรมหนังเด็ดๆ
ที่คัดสรรมาอย่างหลากหลายเพิ่มเติมเต็มความสุขในวันสบายๆ

Bangkok Tree Houseเป็นโรงแรมที่เปลี่ยนทัศนคติของทั้งแขกที่มาเยือน และธุรกิจโรงแรมจากความฟุ่มเฟือยให้เป็นเรื่องของความเป็นมิตร
และมีความรับผิดชอบต่อพื้นที่บริเวณนั้นๆ สิ่งแวดล้อม และธรรมชาติอย่างแท้จริง ใครต้องการการพักผ่อนอย่างเต็มที่
ทานอาหารอร่อยที่ดีต่อสุขภาพ เราขอแนะนำที่นี่จากใจจริง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น